หลังตำรวจเรียกตัว “นายกอล์ฟ” ซึ่งมีข่าวว่าเขาเป็นลูกน้องช่วยเก็บเงินกู้รายวันของนายแด้ สุทธิศักดิ์ ที่ จ.อุดรธานี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากคดีแอม เข้าให้ปากคำที่สโมสรตำรวจ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังแอมเดินทางไปหา “นายแด้” ที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อจัดงานวันเกิดของตัวเอง แต่ไปได้เพียงแค่ 2 วัน แอม ก็พานายแด้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง แต่เมื่อกลับถึงหอพักเขาก็เสียชีวิต โดยในวันเกิดเหตุมี “นายกอล์ฟ” ซึ่งเป็นลูกน้องเก็บเงินกู้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ชำแหละคำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่! ไทม์ไลน์ 11 ศพ บางคนตายห่างกัน 2 วัน
คนสนิท "นายแด้" ให้ข้อมูลปมไซยาไนด์
นายกอล์ฟ เปิดใจครั้งแรกกับพีพีทีวี โดยยอมรับว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ที่นายแด้เสียชีวิตจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนร่วมลงมือกับ “แอม” และไม่ได้ช่วยทำลายหรือซุกซ่อนหลักฐาน และตัวเองก็เข้าให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น
นายกอล์ฟเล่าว่าจริงๆแล้ว ก่อนที่เขาจะมาเป็นลูกน้องของ “นายแด้” เขารู้จักกับแอมมาก่อน เนื่องจากทำงานเกี่ยวกับเงินกู้รายวันอยู่ในจังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี กระทั่งปลายปีที่แล้วแอมติดต่อให้ไปช่วยงานนายแด้ ซึ่งบอกว่าเป็นสามีของแอม ปล่อยเงินกู้ที่จังหวัดอุดรธานี โดยตัวเองทำหน้าที่ขี่จักรยานยนต์ไปเก็บเงินลูกหนี้ให้
จนวันเกิดเหตุแอมโทรศัพท์มาหา บอกว่า “นายแด้” มีอาการผิดปกติระหว่างจะกลับบ้านเช่า เกิดเวียนหัวและอาเจียน ตัวเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปที่โรงพยาบาล จนได้พบกับแอม ซึ่งบอกว่าจะพานายแด้กลับไปพักที่บ้าน ตัวเองจึงบอกว่าจะตามไปช่วยพยุง แต่ระหว่างทางแอมโทรศัพท์มาบอกว่าแด้อาการดีขึ้นไม่ต้องมาแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็โทรมาบอกอีกครั้งว่านายแด้เสียชีวิต
นายกอล์ฟ ยังเปิดใจกับเราอีกประเด็น กรณีช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ( 27 เม.ย.) มีสื่อออนไลน์ และสื่อบางสำนัก นำเสนอข่าวภาพของตัวเองขณะเข้าให้ปากคำ และระบุว่าเป็นผู้ร่วมมือกับแอมวางยานายแด้นั้น เขายืนยันว่าตัวเองไปให้ข้อมูลในฐานะพยาน ไม่รู้เห็นเรื่องการวางยาและเป็นคนตามไปช่วยนายแด้ที่โรงพยาบาลด้วย ซึ่งเขาได้ให้ข้อมูลทุกอย่าง รวมถึงเล่าพฤติกรรมของแอมให้ตำรวจฟังหมดแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี ก็ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับใน “นายกอล์ฟ” ว่าขณะนี้ยังคงมีสถานะเป็นเพียงพยาน เพราะมีความสนิทสนมกับทั้ง “แอม” และ “แด้” ซึ่งเจ้าตัวก็ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังไม่ได้รับสารภาพตามกระแสข่าว
ส่วนการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีของ “แอม” เมื่อวานนี้ เบื้องต้นก็ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ซึ่งเป็นสิทธิที่จะให้การอย่างไรก็ได้ และทางตำรวจมีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ โดยหลังจากนี้จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการ หากพบความเชื่อมโยงหรือข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง
ทำให้ในตอนนี้ตำรวจยังคงแจ้งข้อหาแอม เพียงคนเดียว โดยแยกเป็นคดีก้อย ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , คดีลักทรัพย์ และคดีสารวัตรปู ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
